ความเป็นมาของเรา

ค.ศ. 1828

Henry Willis เริ่มทำอาชีพพ่อค้าขายสินค้านำเข้า โดยได้ค่าตอบแทนจากการจำหน่ายสินค้าที่ตลาดบอลติก กรุงลอนดอน สหราชอาณาจักร

ค.ศ. 1841

Willis สมัครเป็นสมาชิกสถาบันลอยดส์และเริ่มทำอาชีพเป็นนายหน้าประกันภัยให้เรือขนส่งสินค้าโภคภัณฑ์ที่เขาได้ค่าตอบแทนจากการจำหน่ายอยู่ ต่อมาธุรกิจของเขาเติบโตขึ้น ทำให้เขาเริ่มทำธุรกิจการประกันภัยตัวเรือและมีความเชี่ยวชาญพร้อมกับชื่อเสียงด้านบริการประกันภัยทางทะเล และได้ก่อตั้งบริษัท Henry Willis & Company ขึ้นมา

ค.ศ. 1865

บริษัท Fackler & Co. ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านคณิตศาสตร์ประกันภัย ก่อตั้งขึ้นที่นิวยอร์ก

ค.ศ. 1878

Reuben Watson ก่อตั้ง R. Watson & Sons ซึ่งเป็นบริษัทประกันภัยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก หลังจากที่องค์กร Manchester Unity of Oddfellows ได้แต่งตั้งให้เขาทำหน้าที่เป็นนักคณิตศาสตร์ประกันภัยขององค์กรในปีเดียวกัน โดยองค์กร Manchester Unity ยังคงเป็นลูกค้าของบริษัทจวบจนถึงปัจจุบัน รวมถึงลูกค้าที่ไว้วางใจบริการด้านคณิตศาสตร์ประกันภัยและนายหน้ารุ่นแรก ๆ ของบริษัท

ค.ศ. 1889

David Parks Fackler ได้ช่วยจัดตั้งองค์กร Actuarial Society of America ซึ่งเป็นองค์กรแรกเริ่มของ Society of Actuaries ในปัจจุบัน โดยนักคณิตศาสตร์ประกันภัยของบริษัทมีส่วนร่วมในสมาคมวิชาชีพนักคณิตศาสตร์ประกันภัยนานเป็นประวัติการณ์ โดยทำหน้าที่เป็นทั้งคณะกรรมการและคณะผู้บริการสมาคม อีกทั้งยังมีส่วนร่วมช่วยกำหนดรูปแบบวิชาชีพคณิตศาสตร์ประกันภัย ทำให้เราเป็นหนึ่งในองค์กรที่มีนักคณิตศาสตร์ประกันภัยรายใหญ่ที่สุดของโลกจวบจนถึงปัจจุบัน

ค.ศ. 1896

Henry Willis & Co. ริเริ่มพัฒนาความสัมพันธ์กับบริษัท Johnson & Higgins ซึ่งมีสำนักงานใหญ่อยู่ที่สหรัฐอเมริกา ทำให้ Willis เข้าถึงตลาดในสหรัฐฯ ได้สำเร็จ

ค.ศ. 1898

Henry Willis & Co ควบรวมกิจการกับ Faber Brothers และก่อตั้งเป็นบริษัท Willis, Faber & Co ขึ้นมา พร้อมกับพัฒนาบริการด้านการประกันภัยทางทะเลที่ครอบคลุมความเสี่ยงทุกด้าน ทำให้บริษัทได้รับการขนานนามว่าเป็นบริษัทนายหน้าประกันภัยที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของโลก

ค.ศ. 1928

Willis Faber & Company ควบรวมกิจการกับบริษัท Dumas & Wylie Limited และก่อตั้งเป็นบริษัท Willis, Faber & Dumas

ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1910

หลังจากมีการผ่านพระราชบัญญัติการประกันภัยแห่งชาติ ค.ศ. 1911บริษัท R. Watson & Sons ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่เป็นที่ปรึกษาหลักของรัฐบาลสหราชอาณาจักรเพื่อคอยให้คำปรึกษาเกี่ยวกับแผนการประกันภัยแห่งชาติ

ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1920

Walter Forster ในฐานะผู้ก่อตั้งบริษัทก่อนหน้าและได้รับการขนานนามว่าเป็น “บิดาด้านการวางแผนเงินบำนาญ” ได้ขายแผนประกันบำนาญหลักชุดแรกให้บริษัท Eastman Kodak

ค.ศ. 1934

ได้มีการก่อตั้งเป็นบริษัท Towers, Perrin, Forster & Crosby (TPF&C) โดยเริ่มแรกได้ดำเนินการด้านการให้บริการประกันภัยต่อและประกันชีวิต และต่อมาจึงให้บริการด้านการวางแผนบำนาญ นายหน้าประกันภัยต่อ และการวางแผนผลประโยชน์พนักงาน

ค.ศ. 1943

Birchard Wyatt ก่อตั้งบริษัท Wyatt Company ซึ่งเป็นบริษัทที่ปรึกษาด้านคณิตศาสตร์ประกันภัยที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี.

ค.ศ. 1950

บริษัท Wyatt Company เข้าซื้อกิจการของบริษัท Fackler & Co.

ตั้งแต่ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1950 เป็นต้นมา

ธุรกิจด้านการวางแผนบำนาญให้บริษัทเอกชนได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้ธุรกิจคณิตศาสตร์ประกันภัยเฟื่องฟูทั้งสองฟากฝั่งมหาสมุทรแอตแลนติก และทำให้สถานะของบริษัทมีความแข็งแกร่งมากขึ้นและกลายเป็นผู้นำกลุ่มที่ปรึกษาด้านคณิตศาสตร์ประกันภัยที่ใหญ่ที่สุดในทวีปยุโรปและอเมริกาเหนือ

ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1960

บริษัท TPF&C ขยายบริการเพื่อให้ครอบคลุมบริการด้านการดูแลสุขภาพ การจ่ายค่าตอบแทน และการให้คำปรึกษาแก่องค์กร

ค.ศ. 1976

บริษัท Willis, Faber & Dumas จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน ทำให้บริษัทมีสถานะเป็นนายหน้าประกันวินาศภัยชั้นนำของสหราชอาณาจักร

ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 และ 1980

การเปลี่ยนแปลงด้านกฎระเบียบและต้นทุนด้านการจัดการผลประโยชน์พนักงานที่เพิ่มขึ้นในสหรัฐฯ ส่งผลให้องค์กรหลายแห่งต้องการผู้เชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์ประกันภัยมากขึ้น

ช่วงคริสต์ทศวรรษ 1980

ธุรกิจประกันภัยต่อของบริษัท Willis ได้ขยายตัวและนำหน้าธุรกิจนายหน้าประกันภัยทางทะเลเป็นครั้งแรก

ค.ศ. 1986

บริษัท Towers, Perrin, Forster & Crosby เข้าซื้อกิจการของบริษัท Tillinghast, Nelson & Warren ซึ่งมีสำนักงานตั้งอยู่ที่แอตแลนตา

ค.ศ. 1987

บริษัท Towers, Perrin, Forster & Crosby เปลี่ยนชื่อเป็น Towers Perrin

ค.ศ. 1990

Willis, Faber & Dumas เข้าดำเนินการในประเทศสหรัฐอเมริกาในฐานะนายหน้าค้าปลีกด้วยการควบรวมกิจการกับบริษัท Corroon & Black ทำให้บริษัทได้กลายเป็นนายหน้าประกันภัยขนาดใหญ่เป็นอันดับสี่ของโลก

ค.ศ. 1995

บริษัท R. Watson & Sons และ The Wyatt Company ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกันด้วยการก่อตั้งเป็นบริษัท Watson Wyatt พร้อมกับควบรวมกิจการทั่วโลกเข้าด้วยกัน

ค.ศ. 1995

บริษัท Willis เข้าซื้อหุ้นจำนวน 33% ในบริษัท Gras Savoye ซึ่งเป็นบริษัทนายหน้าสัญชาติฝรั่งเศส

ค.ศ. 1997

Willis Corroon ถูกแปรรูป บริษัท Kohlberg Kravis Roberts เข้าแปรรูปรัฐวิสาหกิจ Willis Corroon ด้วยข้อตกลงมูลค่า 1.4 พันล้านดอลลาร์

ค.ศ. 1998

การดำเนินงานของบริษัท Willis ถูกควบรวมเข้าด้วยกันภายใต้ชื่อของกลุ่มบริษัท Willis Group

ค.ศ. 2000

บริษัท Watson Wyatt เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก

ค.ศ. 2001

Willis Group เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก พร้อมกับประสบความสำเร็จและเติบโตขึ้นอย่างมาก

ค.ศ. 2006

Willis Research Network เปิดตัวในฐานะความร่วมมือขนาดใหญ่ที่สุดของโลกที่สถาบันการศึกษาและภาคการเงินได้ร่วมกันก่อตั้งขึ้นมา

ค.ศ. 2008

Willis Group ขยายการดำเนินธุรกิจในสหรัฐอเมริกาเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่า ด้วยการซื้อกิจการของ Hilb Rogal & Hobbs มูลค่า 2.1 พันล้านดอลลาร์

ค.ศ. 2010

Towers Perrin และ Watson Wyatt ควบรวมกิจการภายใต้ความร่วมมือที่เท่าเทียมกันเป็น Towers Watson

ค.ศ. 2012

Towers Watson เข้าซื้อกิจการของ Extend Health และเข้าสู่ตลาดแลกเปลี่ยนการบริการด้านการดูแลสุขภาพเอกชนในสหรัฐอเมริกา

ค.ศ. 2015

Willis Group ใช้สิทธิ์ตามสัญญาซื้อหุ้นที่เหลือของ Gras Savoye พร้อมกับตกลงที่จะซื้อหุ้นจำนวน 85% ของ Miller ซึ่งเป็นบริษัทนายหน้าค้าส่งประกันภัยอิสระชื่อดังของลอนดอน

ค.ศ. 2016

Willis Group และ Towers Watson ควบรวมกิจการเข้าด้วยกันเป็น Willis Towers Watson

ค.ศ. 2016

Willis Towers Watson เข้าร่วมเป็นส่วนหนึ่งของกลุ่มความร่วมมือ Paradigm for Parity® (P4P) ซึ่งประกอบด้วยผู้นำทางธุรกิจ คณะกรรมการองค์กร และนักวิชาการที่ร่วมกันผลักดันส่งเสริมให้ตำแหน่งผู้นำในองค์กรมีความเท่าเทียมทางเพศให้สำเร็จภายในปี 2030

ค.ศ. 2019

Willis Towers Watson เข้าซื้อกิจการ TRANZACT ซึ่งเป็นองค์กรผู้ให้บริการด้านการดูแลสุขภาพโดยตรงกับผู้บริโภค โดยทำหน้าที่เชื่อมโยงผู้บริโภคเข้ากับผู้ให้บริการประกันภัยของสหรัฐอเมริกา

ค.ศ. 2020

Willis Towers Watson เข้าซื้อกิจการ Unity Group ซึ่งเป็นบริษัทนายหน้าประกันภัยระดับภูมิภาคของทวีปอเมริกากลาง โดยดำเนินธุรกิจในประเทศต่าง ๆ มากถึง 6 ประเทศ

ค.ศ. 2021

Willis Towers Watson ประกาศความมุ่งมั่นที่จะลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2050

ค.ศ. 2022

Willis Towers Watson เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น WTW พร้อมกับเปลี่ยนสัญลักษณ์หุ้นเป็น WTW ในตลาดหลักทรัพย์ Nasdaq Exchange และได้แต่งตั้ง Carl Hess เป็น CEO คนใหม่ของบริษัท ต่อจาก John Haley ที่ดำรงตำแหน่ง CEO ของบริษัทมานาน 23 ปี