แนวโน้มผลประโยชน์พนักงานขององค์กรในประเทศไทย

นายจ้างกำลังเผชิญกับความท้าทายหลายประการ ทั้งต้นทุนสวัสดิการที่เพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว รวมถึงการแข่งขันในตลาดเพื่อดึงดูด และรักษาพนักงานที่มีความสามารถไว้ อีกทั้งด้วยวิกฤตด้านสุขภาพจิต ปัญหาเกี่ยวกับค่าครองชีพ และกระแสที่หันไปสนใจด้านสิ่งแวดล้อมและผลประโยชน์เพื่อสนับสนุนการยอมรับความแตกต่างและความหลากหลาย เหตุนี้ทำให้การวางกลยุทธ์ด้านผลประโยชน์ให้ตอบโจทย์นั้นยิ่งมีความท้าทายกว่าเมื่อก่อน

การสำรวจแนวโน้มผลประโยชน์ปี 2023 พบว่าถึงแม้นายจ้างจะหมายมุ่งที่จะคงความสามารถในการแข่งขันด้านผลประโยชน์และสวัสดิการ แต่พวกเขาก็ต้องการกลยุทธ์เพื่อกำหนดเส้นทางผลประโยชน์ที่เหมาะสม

การแข่งขันเพื่อจัดหาพนักงานที่มีความสามารถและการจัดการทำงานแบบยืดหยุ่นเป็นประเด็นสำคัญที่มีอิทธิพลต่อกลยุทธ์ด้านผลประโยชน์

การแข่งขันเพื่อจัดหาพนักงานที่มีความสามารถและการจัดการทำงานแบบยืดหยุ่นเป็นประเด็นสำคัญที่มีอิทธิพลต่อกลยุทธ์ด้านผลประโยชน์ การแข่งขันเพื่อจัดหาพนักงานที่มีความสามารถนั้นยังคงเป็นประเด็นปัญหาที่ไม่มีทีท่าว่าจะหมดไปในประเทศไทย และยังเป็นปัญหาอันดับ 1 สำหรับนายจ้างเมื่อ 2 ปีที่แล้ว (รูปที่ 1) การจัดการทำงานแบบยืดหยุ่นขยับขึ้นเป็น 2 อันดับแรก ในขณะที่ประเด็นสำคัญอื่น ๆ ที่มีอิทธิพลต่อกลยุทธ์ด้านผลประโยชน์และสวัสดิการในประเทศไทยกำลังมุ่งไปที่ค่าใช้จ่ายและปัญหาสุขภาพจิตที่เพิ่มขึ้น มากกว่าการใช้เทคโนโลยีเพื่อให้พนักงานเข้าถึงผลประโยชน์ได้อย่างสะดวกขึ้นและการมุ่งเน้นผลประโยชน์เพื่อสนับสนุนการยอมรับความแตกต่างและความหลากหลาย

รูปที่ 1: ปัจจัยที่มีอิทธิพลต่อกลยุทธ์ด้านผลประโยชน์

กลยุทธ์ด้านผลประโยชน์พนักงาน

เมื่อต้องระบุประเด็นกลยุทธ์ด้านผลประโยชน์ที่สำคัญที่สุด 3 อันดับแรกในทั้งหมด 5 มิติ ประเทศไทยมุ่งเน้นเรื่องความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงานมากที่สุด รองลงมาคือการวางแผนค่าใช้จ่ายและการเปรียบเทียบและดูแนวโน้มของตลาด

รูปที่ 2: ประเด็นที่ต้องให้ความสำคัญสําหรับกลยุทธ์ด้านผลประโยชน์

ผลประโยชน์เพื่อสนับสนุนการยอมรับความแตกต่างและความหลากหลาย

ความหลากหลาย ความเสมอภาค และการยอมรับ (Diversity, Equity and Inclusion: DEI) เป็นสิ่งที่นายจ้างในเอเชียแปซิฟิกให้ความสำคัญสูงสุดเมื่อ 2 ปีที่แล้ว และยังคงให้ความสนใจมาอย่างต่อเนื่อง ด้วยความเข้าใจที่ว่าการทำให้สถานที่ทำงานมีการสนับสนุนการยอมรับความแตกต่างซึ่งกันและกันนั้น จะช่วยสร้างความผูกพันที่พนักงานมีต่อองค์กร ในประเทศไทย นายจ้างมากกว่าหนึ่งในสาม (35-36%) ได้เริ่มพัฒนาวัตถุประสงค์ DEI และเข้าใจประเด็นสำคัญ และประมาณครึ่งหนึ่งกำลังวางแผนหรือพิจารณาเพื่อดำเนินการทบทวนผลประโยชน์ผ่านแนวคิด DEI

รูปที่ 3: การดำเนินการด้านผลประโยชน์เพื่อสนับสนุนการยอมรับความแตกต่างและความหลากหลาย

นายจ้างมีความต้องการที่จะเพิ่มผลประโยชน์ในทุกด้าน

นายจ้างมากกว่าครึ่งปรับผลประโยชน์ในด้านความเป็นอยู่ที่ดีทางการเงิน แผนการเกษียณอายุพนักงาน อาชีพ การฝึกอบรมและการพัฒนาให้อยู่ในระดับเดียวกับตลาด ในขณะในอีก 2 ปีข้างหน้านายจ้างปรารถนาที่จะปรับเพิ่มผลประโยชน์พนักงานในทุก ๆ ด้าน ให้สูงกว่าตลาด

รูปที่ 4: ความต้องการของนายจ้างที่จะเพิ่มผลประโยชน์

สำหรับข้อมูลเชิงลึกและคำแนะนำเพิ่มเติมเกี่ยวกับวิธียกระดับกลยุทธ์ด้านผลประโยชน์พนักงาน ร่วมพูดคุยกับผู้เชี่ยวชาญของเรา